แกะป่า ที่มีชื่อว่า Baarack นั้นถูกพบเจอหลังจากที่หลงอยู่ในป่ามานานหลายปี จนมีขนที่มีน้ำหนักรวมถึง 35 กิโลกรัมกว่า โดยได้รับการช่วยเหลือและตัดขนออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ณ ประเทศออสเตรเลีย ได้มีการพบ แกะป่า ในป่าบริเวณพื้นที่ Lancefield รัฐวิกตอเรีย (Victoria) โดยแกะตัวนี้ถูกตั้งชื่อโดยเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือว่า Baarack โดยสภาพของมันนั้นเต็มไปด้วยขนขนาดมหึมา ที่มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 35 กิโลกรัมกว่า ถือได้ว่ามีน้ำหนักเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของจิงโจ้โตเต็มวัยเลยทีเดียว
เจ้าแกะตัวนี้ได้รับการช่วยเหลือโดยทาง Edgar’s Mission Farm Sanctuary
ซึ่ง Kyle Behrend เจ้าหน้าที่ของทาง Edgar’s Mission Farm ได้พูดถึงเจ้าแกะว่า “ปรากฏว่าเจ้า Baarack นั้นเคยเป็นแกะมีเจ้าของมาก่อนแล้ว” “โดยเขา (Baarack) นั้นได้มีรอยของการติดป้ายที่หูครั้งหนึ่ง ซึ่งก็คาดว่าป้ายที่ว่านี้ได้ถูกเกี่ยวออกไปโดยขนบริเวณรอบหน้า”
Behrend ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “แกะนั้นต้องได้รับการตัดขน อย่างน้อยเป็นประจำทุกปี ไม่อย่างนั้น ขนของมันจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ ต่อเนื่อง จนมาเป็นอย่างที่เราได้เห็นกัน” ซึ่งเป็นการกล่าวหลังจากที่ได้ทำการโกนขนของเจ้า Baarack ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขนของมันนั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ 35.4 กก.
ในส่วนของร่างกายนั้นก็ได้มีการกล่าวว่า “ในขณะที่กีบเท้าของมันนั้นยังอยู่ในสภาพที่ดีเนื่องจากการเดินบนหินในป่าอยู่ตลอดนั้น เขาก็ยังคงมีสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเขานั้นมีน้ำหนักต่ำกว่าปกติ เนื่องจากขนที่ปกคลุมบริเวณใบหน้าของเขาทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ชัดเจน และลำบาก”
โดยเจ้า Baarack ได้ไปอยู่รวมกับแกะตัวอื่นที่ได้รับการช่วยเหลือเช่นเดียวกันที่ฟาร์ม Edgar’s Mission, Behrend ได้กล่าวปิดท้ายว่า “การผจญกับความยากลำบากนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความอดทน และความกล้าหาญของเจ้าแกะได้ดี และเราไม่สามารถที่รักมันไปได้มากกว่านี้แล้ว”
แคนาดา ลงมติตัดสินชี้ให้การปฏิบัติของ จีน ต่อชาวมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เป็น ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชาวมุสลิมอุยกูร์
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว BBC รายงานว่า สภาแคนาดาได้ลงมติ 266 ต่อ 0 เสียง จากจำนวนสมาชิกในสภา 338 ที่นั่ง ให้ประกาศว่าการกระทำของรัฐบาลจีนต่อชาวมุสลิสในเขตปกครองซินเจียงอุยกูร์เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ ซึ่งถือเป็นชาติที่สองคนโลก ต่อจากสหรัฐฯ ที่รับรองว่าจีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์
สหรัฐฯ ประกาศ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ
คณะกรรมการอาหารและยา หรือ FDA ของสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าวัคซีนต้านโควิด-19 จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เล็งอนุมัติใช้เร็วๆนี้
จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน – เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว BBC รายงานว่า คณะกรรมการอาหารและยา หรือ FDA ได้ออกมาระบุว่า วัคซีนต้านโควิด ของบริษัท จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน มีประสิทธิภาพในการต่อต้านโรคโควิด-19 และสามารถลดอาการป่วยของผู้ติดเชื้อได้
โดยจากตรวจสอบผลการทดลองในประเทศสหรัฐอเมริกา, แอฟริกาใต้ และ บราซิล พบว่ามีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง แต่ตัวเลขดังกล่าวจะลดลงในการทดลองที่บราซิลและแอฟริกาใต้ที่กำลังเผชิญกับโควิดกลายพันธุ์ ซึ่งจากข้อมูลยังชี้ให้เห็นอีกด้วยว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพร้อยละ 85 ในการป้องกันอาการป่วยรุนแรง อย่างไรก็ตามมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดโดยรวมร้อยละ 66
นอกจากนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิตในกลุ่มอาสาสมัครอีกด้วย และไม่มีผู้ป่วยต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในระยะเวลา 28 วันหลังได้รับวัคซีน
วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันนั้นถือเป็นวัคซีนที่ประหยัดกว่าวัคซีนทั่วไป เนื่องจากวัคซีนชนิดนี้ใช้เพียงโดสเดียว ต่างจากวัคซีนชนิดอื่นๆ นอกจากนี้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ไม่จำเป็นต้องเก็บในช่องแช่เย็น และสามารถเก็บในอุณหภูมิตู้เย็นได้ คาดว่าทางการสหรัฐฯน่าจะอนุมัติใช้วัคซีนชนิดนี้ในเร็ววัน
ขณะนี้สหราชอาณาจักรได้สั่งซื้อวัคซีนชนิดดังกล่าวแล้ว 30 ล้านโดส, แคนาดา 38 ล้านโดส ขณะที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรือ EU สั่งซื้อวัคซีนชนิดนี้ 200 ล้านโดส
ส่วนผู้ที่เข้าร่วมโครงการ โคแวกซ์ ขององค์การอนามัยโลกได้จัดซื้อวัคซีนชนิดนี้เพื่อเตรียมแจกในกลุ่มประเทศต่างๆ 500 ล้านโดส
อย่างไรก็ตามนาย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และ สมาชิกสภาของเขาส่วนใหญ่งดออกเสียงในมติดังกล่าว ซึ่งผู้นำแคนาดาระบุว่า การเรียกสิ่งที่รัฐบาลจีนทำว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นคำพูดที่รุนแรง และพวกเขาต้องการจะต้องสืบสวนเพิ่มเติม ก่อนตัดสินพฤติกรรมจีน
อย่างไรก็ตาม นายมาร์ค การ์นู รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ เป็นเพียงคนเดียวที่ไปลงมติสนับสนุน ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์ว่า การประกาศท่าทีที่ชัดเจนในครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณไปยังทุกประเทศทั่วโลกว่า แคนาดาเป็นประเทศที่ยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชน และเคารพในศักดิ์ศรีแห่งสิทธิมนุษยชน แม้ว่าต้องแลกมาด้วยความสูญเสียโอกาสทางด้านเศรษฐกิจก็ตาม
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง