WHO เผย โควิด ไม่น่าหลุดจาก ห้องแล็บจีน

WHO เผย โควิด ไม่น่าหลุดจาก ห้องแล็บจีน

WHO ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลสำรวจหาที่มาของ โควิด ในเมืองอู่ฮั่น โดยนักวิทยาศตร์ชี้ว่า โควิด ไม่น่าหลุดออกมาจาก ห้องแล็บจีน เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย ปีเตอร์ เบน เอมบาเรค หัวหน้าทีมสืบสวนหาต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงผลการสำรวจ โดยนาย เอมบาเรค กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่โควิดจะหลุดออกมาจากห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่น ถือว่าต่ำมาก

ผู้นำทีมสำรวจกล่าวว่าต้นตอของเชื้อไวรัสน่าจะมาจากโรคตามธรรมชาติของค้างคาว 

แต่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในอู่ฮั่น ซึ่งเขาเชื่อว่าเส้นทางการแพร่ระบาดน่าจะมาจาก ค้างคาว ไปยังสัตว์ชนิดอื่น และมนุษย์อีกทีหนึ่ง เขายังได้กล่าวอีกว่าพวกเขาต้องทำการสืบสวนหาต้นตอเพิ่มเติม และพวกเขาอาจจะมุ่งเป้าไปยังพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศจีนอยู่กับภูมิภาคดังกล่าว และพื้นที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตามการตามหาที่มาของโรคโควิดไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากทั้งประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างเป็นพื้นที่ใหญ่ และอาหารทะเลที่นำมาขายในตลาดสดหัวหนานในเมืองอู่ฮั่น ก็ถูกนำเข้าจากทั้งในประเทศจีนและนอกประเทศ

ภารกิจการตรวจสอบหาที่มาโควิดเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยสำนักข่าว BBC ชี้ว่าการลงพื้นที่ของผู้เชี่ยวชาญถูกจับตามองจากทางการจีนอย่างใกล้ชิด

เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เข้าจับกุมชายคนหนึ่งหลังเขา ต่อยแฟน เพราะเปลี่ยนช่อง ในระหว่างการแข่งขันซูเปอร์โบลว์

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว WCJB รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนาย โทมัส ไวท์ ชายชาวอเมริกัน วัย 55 ปี หลังจากที่ชายคนดังกล่าวได้ต่อยแฟนสาวของเขา หลังจากที่ทั้งสองปากเสียงกัน เนื่องจากแฟนสาวของเขาเปลี่ยนช่องระหว่างการแข่งขันศึกคนชนคน ซูเปอร์โบลว์ ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐฟลอริดาระบุว่าผู้ต้องหาได้ต่อยเข้าที่ใบหน้า จนทำให้แฟนสาวได้รับบาดเจ็บเป็นแผลบริเวณใบหน้า เลือดกำเดาไหล รอยช้ำที่มือและข้อมือ

ด้านผู้ต้องหาบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเหยื่อได้ต่อว่าเขา ก่อนลงมือตบหน้าเขา ซึ่งเขาชกแฟนสาวเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กล่าวว่าไม่พบบาดแผลบนร่างกายนายไวท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าคำกล่าวอ้างไม่สอดคล้องกับหลักฐาน

เมียนมา บุกค้น สำนักงานพรรค อองซานซูจี เผยมียิง กระสุนจริง

ท่ามกลางความรุนแรงในการชุมนุมที่ทวีความรุนแรงขึ้นใน เมียนมา ก็ได้มีรายงานว่า กองทัพได้บุกค้นสำนักงาน NLD ขณะที่มี ปชช. เปิดเผยว่ามีการใช้ กระสุนจริง

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า กองทัพเมียนมาได้ทำการบุกค้นและทำลายทรัพย์สินภายในสำนักงานของพรรค สันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD พรรคของนางอองซานซูจี ในช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

โดยการบุกค้นครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่สถานการณ์ชุมนุมภายในเมียนมายังคงตึงเครียดและทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในการชุมนุมวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมในหลายพื้นที่และมีการยิงกระสุนยางในกรุงเนปิดอว์

นอกจากนี้มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่ามีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 2 รายถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ระบุว่าผู้ได้รับบาดเจ็บจะถูกกระสุนจริงยิง

จากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายได้ออกมาประณามการกระทำของกองทัพเมียนมา ขณะนี้มีทางการสหรัฐฯ, สหประชาชาติ, สหภาพยุโรป ที่ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยสหภาพยุโรปเตรียมหารือเพื่อหามาตรการคว่ำบาตรเมียนมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสหภาพยุโรปยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่กระทบประชาชน

ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้นกองทัพได้ทำการก่อรัฐประหารพร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้

นอกจากนางอองซานซูจีแล้ว นาย วิน มินต์ อดีตประธานาธิบดีเมียนมา ถูกจับกุมและตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายการห้ามชุมนุมในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากเขาได้พบปะกับผู้สนับสนุนเขาที่ออกมาเดินขบวนสนับสนุนในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

สถานการณ์การชุมนุมของ ม็อบเมียนมา ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ยิง กระสุนยาง ใส่ผู้ชุมนุมแล้ว

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงกระสุนยางใส่กลุ่มผู้ชุมนุมในกรุงเนปิดอว์ หลังจากที่ผู้ชุมนุมจำนวนมาออกมาประท้วงคัดค้านการรัฐประหารต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า